เกาะติดสถานการณ์ธุดงค์ธรรมชัยเส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 4 (12 มกราคม พ.ศ. 2558)
วันนี้เริ่มต้นความปลื้มกันที่วัดผาสุการาม กับอากาศเย็นๆ สบ๊ายสบาย หนาวนิดๆ จนหลายคนบอกว่ายังกับอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์เลย ซึ่งพระธุดงค์ 1,130 รูป ได้รับความเมตตาอย่างสูงจาก หลวงพ่อพระครูผาสุกกิจจาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดผาสุการาม ที่ออกมาโปรยดาวรวยส่งพระลูกพระหลานด้วยความเบิกบานใจ
รุกขธรรมชาดก-ชาดกว่าด้วยต้นไม้โดดเดี่ยวย่อมแพ้ลม
ในพุทธกาลครั้งหนึ่งได้เกิดเหตุร้าวฉานแตกสามัคคีถึงขั้นกลียุคขึ้นระหว่างเมืองพระญาติของพระพุทธเจ้า เหตุปัจจัยนั้นคือการแย่งน้ำในแม่น้ำโรหิณีที่พระอานนท์ตักถวายในห้วงเวลาก่อนเสด็จปรินิพพาน แม่น้ำสำคัญสายนี้เป็นพรมแดนกั้นกลางระหว่างนครกบิลพัสดุ์และเทวทหะ
จันทกินรีชาดก-ชาดกว่าด้วยความผูกพันจงรักภักดี
ครั้งเมื่อพระพุทธศาสดาเสด็จสู่แคว้นสักกะแห่งศากยวงศ์ พร้อมพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องซ้ายและขวาและสังฆสาวกทั้งมวล พุทธกาลครั้งนั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปยังกรุงกบิลพัสดุ์นครหลวงของแคว้นสักกะ เพื่อแสดงธรรมโปรดพระเจ้าสุทโธทนะพระราชบิดา
9 ภาษาสากล สื่อสารความดีกับเด็กดีวีสตาร์ (V-Star Change the World)
เมื่อเหล่าเด็กดีวีสตาร์กำลังจะเปลี่ยนโลก พลิกโลก ให้โลกใบนี้หวลคืนมาเป็นโลกที่สว่างไสวไปด้วยศีลธรรม พวกเราเหล่าผู้ใหญ่ใจดีจึงจำเป็นต้องฝึกภาษาไปด้วย เพื่อใช้ในการสื่อสารความดีกับเหล่า V-Star ทั่วโลก เหมาะสมกับการเป็น V-Star Change the World อย่างแท้จริง
มุทุลักขณชาดก-ชาดกว่าด้วยกามกิเลสคือต้นเหตุแห่งความเศร้าหมอง
สมัยพุทธกาลผ่านมาพระเชตะวันมหาวิหารของพระบรมศาสดาร่มเย็นเป็นที่พึ่งพาของเวไนยสัตว์อย่างทั่วถึง ดุจแสงจันทร์วันเพ็ญอันสว่างนวลทั่วปริมณฑล แต่จันทร์กระจ่างฟ้าก็หาทำความรื่นรมย์ได้ทั่วทุกคนไม่ ยังมีภิกษุหนุ่มชาวสาวัตถีรูปหนึ่งกำลังกลัดกลุ้มอยู่กับความทุกข์ภายใต้แสงจันทร์นวลทุกราตรี
อสาตมนต์ชาดก-ชาดกว่าด้วยมนต์มายาหญิง
ณ พระเชตะวันมหาวิหารกาลนั้น มีภิกษุสงฆ์ผู้ตกทุกข์ด้วยเหตุจากอิสตรีเข้ากวนกิเลสมิให้ดื่มด่ำธรรมรสได้ดุจเดิม กิเลสจากหญิงนั้นทำให้บุตรแห่งพระสมณโคดมรูปหนึ่ง มิเป็นอันบำเพ็ญภาวนา
ชาตินี้ชาติหน้า
เวรกรรมมีจริงไหม? ชาตินี้ชาติหน้ามีจริงรึเปล่า? เอานรกมาขู่ เอาสวรรค์มาล่อกันทำไม? ชาตินี้ชาติหน้าเป็นอย่างไร เราระลึกชาติได้ไหม? ติดตามเรื่องราวความจริงที่ทุกคนควรรู้ที่นี่ . . .
กูฏวาณิชชาดก ชาดกว่าด้วยหนามยอกเอาหนามบ่ง
นายบัณฑิตนั้นไม่ใช่คนโง่ เขาสังเกตเห็นพิรุจหลายอย่างจึงคิดพิสูจน์ว่ารุกขเทวดาที่ต้นไม้นั้นมีอยู่จริงหรือไม่ “ สหายจะให้เราเชื่อเช่นนั้นก็ได้ แต่เราขอพิสูจน์ให้แน่ใจก่อนนะ ” นายบัณฑิตได้เดินไปเก็บฟืนแล้วนำกองไว้ที่โคนต้นไม้ จุดไฟเผาในโพรงไม้นั้น “….เดี๋ยวเถอะจะได้รู้กันว่าเทวดาจริงหรือเทวดาปลอมกันแน่...”
มโนชชาดก-ชาดกว่าด้วยคบคนชั่วไม่ได้ความสุขที่ยั่งยืน
สมัยนั้นมีสหายสองคนผู้เป็นชาวเมืองราชคฤห์ ในสองสหายนั้น คนหนึ่งบวชในสำนักของพระศาสดาอีกคนหนึ่งบวชในสำนักของพระเทวทัต สหายทั้งสองนั้นย่อมได้พบเห็นกันและกันอยู่เสมอ แม้ไปวิหารก็ยังได้พบเห็นกัน ภิกษุที่ออกบวชในสำนักพระศาสดาต้องปฏิบัติกิจสงฆ์ออกบิณฑบาต ปฏิบัติธรรมอยู่เป็นนิจ ส่วนภิกษุที่บวชในสำนักของพระเทวทัตนั้นไม่ต้องออกไปบิณฑบาต เพราะจะมีคนจัดสำรับไว้ให้ในโรงฉันเรียบร้อย
ตรี นันทรัตน์ เชาวราษฎร์ในละครห้าห้องชีวิต "ห้องนางรำ"
ตรี นันทรัตน์ เชาวราษฎร์ในละครห้าห้องชีวิต "ห้องนางรำ" ความเหนื่อยหน่าย ท้อแท้ ผิดหวัง เสียใจ สุข ทุกข์ เศร้า เคล้าน้ำตา เกิดขึ้นได้แทบทุกวินาทีของเวลาในการใช้ห้องนี้ ที่ไม่ต่างจากช่วงเวลาของชีวิต ที่ใช้หาทรัพย์ภายในห้องทำงานของเรา..ทุกฉาก..ทุกเรื่องราวจะน่าติดตามเพียงใดมาติดตามกันค่ะ ...