พุทธสุภาษิตสะกิดใจ "อิจฉามี คนดีจะหายาก"
พุทธสุภาษิต วันนี้ "อรติ โลกนาสิกา ความริษยา เป็นเหตุให้โลกพินาศ" พุทธศาสนสุภาษิต ที่บัณฑิตควรศึกษาไว้...
ทำอย่างไรจึงจะเลิกนิสัยอิจฉาชาวบ้านได้
การที่คุณเป็นคนขี้อิจฉาริษยาชาวบ้านนั้น เพราะคุณเป็นรองเขาเรื่อยมา เหตุลึกๆ ที่ทำให้คุณเป็นคนต่ำต้อย น้อยหน้าเป็นรองคนอื่น เพราะคุณมีบุญเก่าติดตัวมาน้อย
โทษของความอิจฉาริษยา
ฉันได้ทำบาปกรรมเอาไว้ จึงไปสู่เปตโลก ฉันอนุโมทนาทานที่ท่านให้แล้ว จึงไม่มีภัยแต่ที่ไหน ขอท่านพร้อมด้วยญาติทุกคน จงมีอายุยืนนานเถิด ขอท่านจงประพฤติธรรมและให้ทานในโลกนี้ แล้วจะเข้าถึงฐานะอันไม่เศร้าโศก เมื่อท่านกำจัดมลทินคือความตระหนี่พร้อมด้วยรากแล้ว ใครๆ ก็ติเตียนท่านไม่ได้ จักเข้าถึงโลกสวรรค์
ผู้ที่อิจฉาริษยาผู้อื่นมักจะได้เกิดในตระกูลต่ำจริงหรือ
คนที่มีนิสัยขี้อิจฉา แสดงว่าบุญน้อยแล้วยังไม่สำนึก ไม่มีอำนาจวาสนาแล้วยังไม่พอ เกิดกี่ชาติๆ ก็ไม่มีทางเจริญรุ่งเรืองได้ ความอิจฉาริษยานี้ จะตัดทอนกำลังที่จะนำไปสร้างบุญต่อได้มาก
ผู้ที่อิจฉาริษยาผู้อื่นจะได้รับผลกรรมอย่างไร
คนขี้อิจฉาคือคนที่ไม่อยากให้คนอื่นได้ดี คือไม่อยากให้คนอื่นทำความดีนั่นเอง เพราะกลัวว่าเขาจะได้ดีกว่าตัวเอง และเขาจะนึกสร้างภาพความต่ำต้อยความพินาศไว้ในใจเขาตลอดเวลา
โลสกชาดก-ชาดกว่าด้วยโทษของความอิจฉาริษยา
ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล ณ ชนบทแคว้นโกศลมีหมู่บ้านชาวประมงประมาณ 1,000 ครอบครัว อาศัยอยู่ด้วยความผาสุกตลอดมา ครั้นต่อมาหญิงคนหนึ่งในหมู่บ้านได้ตั้งครรภ์ นับตั้งแต่นั้นมาทุกครอบครัวต่างก็ทำมาหากินฝืดเคืองลำบากมากขึ้นตามลำดับ